วัดร่องขุ่น
วัดร่องขุ่น เป็นวัดพุทธ
ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ออกแบบและก่อสร้างโดย เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์
ตั้งแต่ พ.ศ. 2540 จนถึงปัจจุบัน
โดยเฉลิมชัยคาดว่างานก่อสร้างวัดร่องขุ่นจะไม่เสร็จลงภายในช่วงชีวิตของตน[1] วัดร่องขุ่นถอดแบบมาจากวัดมิ่งเมือง
จังหวัดน่าน[2]
เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม
พ.ศ. 2557 เวลา 18.05
น. เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.3 มีศูนย์กลางอยู่ที่อำเภอแม่ลาว
จังหวัดเชียงราย และแผ่นดินไหวตามหลายครั้ง
สร้างความเสียหายให้กับวัดร่องขุ่นเป็นอย่างมาก เช่น ผนังโบสถ์ปูนกระเทาะออก
กระเบื้องหลุด ยอดพระธาตุหัก ภาพเขียนเสียหายหมด
ทำให้ต้องปิดวัดเพื่อซ่อมแซมตั้งแต่วันที่ 6
พฤษภาคม ปีเดียวกัน
ผมใฝ่ฝันที่จะสร้างวัด (อุโบสถ)
สักหลังก่อนตาย สาเหตุเพราะผมเป็นชาวพุทธแท้ ผมเป็นจิตรกร
หลังจากที่ผมได้ทำบุญครั้งใหญ่ ปี ๒๕๒๗
ด้วยการเดินทางไปเขียนจิตรกรรมฝาผนังถวายเป็นพุทธบูชาที่วัดพุทธปทีป ประเทศอังกฤษ
เป็นเวลา ๔ ปี ผมหมดเงินที่เคยสะสมมา ผมเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่
ปี ๒๕๓๑ ผมกลับไปที่บ้านเกิดของผม
เพื่อกราบหลวงพ่อและถวายรูปพิมพ์ผลงานวัดพุทธปทีปให้ท่าน วัดบ้านผมทรุดโทรมมาก
หลวงพ่อสมภารสุขภาพไม่ดีและชราภาพมาก อุโบสถหลังเล็กๆ ที่ผมเคยจำความได้
เคยเห็นพ่อผมกับเพื่อน ๆ ท่านในหมู่บ้าน ชักไม้ด้วยช้างมาร่วมกันสร้างวัด
ผมเคยเห็นหลวงพ่อ ตายาย พ่อแม่
และพี่น้องชาวบ้านเดินทางไปอาราธนาหลวงพ่อศิลาดำใส่เกวียนออกมาจากป่า
ผมเข้าไปในโบสถ์ที่ใชัสังฆกรรมไม่ได้ด้วยเหตุเพราะชำรุดมาก
และกลายเป็นที่อยู่ของค้างคาวฝูงใหญ่ ผมตั้งอธิษฐานจิต ถ้าชีวิตผมพร้อมเมื่อไหร่
ผมจะกลับมาสร้างโบสถ์ใหม่ให้ได้ เวลา ๑๐ ปี ผ่านไปด้วยกุศลจิต
ชีวิตผมและครอบครัวประสบความสำเร็จทุกอย่างพร้อมแล้ว
ผมกลับไปบ้านเกิดดำเนินการร่วมกับหลวงพ่อสมภาร
เริ่มร่างรูปอุโบสถหลังใหม่ตามจิตนาการของท่าน เพื่อให้ท่านได้มีส่วนร่วม ดังนั้น
โครงสร้างลักษณะสถาปัตยกรรมในปีแรกจึงเป็นแบบตามใจหลวงพ่อสมภาร
ใน ๒ ปีต่อมา ผมได้มาเริ่มต่อเติมเพิ่มสถาปัตยกรรมให้สง่าแปลกตาขึ้น
โดยเพิ่มบันไดด้านข้างขึ้น ประดับเปลวพระรัศมี ทั้ง ๔ แบบ
และขุดสระสร้างสะพานข้ามเข้าสู่อุโบสถ
พร้อมกับงานตกแต่งในเรื่องของลวดลายปูนปั้นประดับกระจกภายนอก เขียนแบบและหาช่างพื้นบ้านและแม่บ้านในหมู่บ้านมาฝึกสอนปั้นและประดับกระจกทั้งหมด
๑๐ คน
ผมได้เริ่มงานมาถึงบัดนี้ ปี ๒๕๔๓ ๓
ปีแล้วครับ คาดว่า จะใช้เวลาอีก ๗ ปี ถึงจะแล้วเสร็จสมบูรณ์
ทั้งลวดลายปูนปั้นภายนอกและจิตรกรรมฝาผนังภายใน
ผมต้องหาเงินปีละประมาณล้านถึงสองล้านบาทเพื่อสร้างสรรค์ผลงานชิ้นสุดท้ายของชีวิตผมให้ดีที่สุด
เท่าที่ฝีมือและสติปัญญาผมมีอยู่
วัดร่องขุ่นจะเป็นศิลป์สมบัติของคนไทยทุกคนและสุดท้ายวัดร่องขุ่นอาจเป็นศิลป์สมบัติอีกแห่งหนึ่ง
ที่มีคุณค่าแก่โลกมนุษย์ในอนาคตก็ได้ แต่ทุกสิ่งไม่สำคัญเท่ากับบุญกุศลที่ผมและท่านผู้มีจิตศรัทธาทุกท่านอุทิศถวายเพื่อเป็นทิพยสถานและพระนิพพานเป็นที่สุด
กราบขอบพระคุณทุกท่านที่ได้ร่วมสร้างมหากุศลกับผม
ตราประจำจังหวัดเชียงราย
คำขวัญประจำจังหวัดเชียงราย
เหนือสุดในสยาม ชายแดนสามแผ่นดิน
ถิ่นวัฒนธรรมล้านนา ล้ำค่าพระธาตุดอยตุง
อ้างอิง
https://th.wikipedia.org
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น